วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เดินไปพร้อมกับรอยยิ้มและหัวเราะ

ผมเคยได้ไปวิ่งมินิมาราธอนในจุดปล่อยตัวของมินิมาราธอนจะอยู่ตรงหน้ากระทรวงกลาโหมมีผู้เข้าร่วมประมวณ 15000 คน มันแน่นมากก
เมื่อเริ่มปล่อยครับทุกคนก็เริ่มวิ่ง ผมพยายามเร่งวิ่งขึ้นไปเพื่อที่จะไปอยู่ในกลุ่มด้านหน้า เพราะการขึ้นไปอยู่ในกลุ่มด้านหน้าได้มันจะทำให้เรา ควบคุมความเร็วของการวิ่งไปสม่ำเสมอ ไม่หยุด ไม่สะดุด อีกอย่างในกลุ่มด้านหน้าคู่แข่งน้อย ผมเร่งผ่านไป 5 กม. ยังติดอยู่ได้แค่กลุ่มกลางๆ เพราะเจอปัญหาหลายๆ อย่าง เช่น เมื่อผมเร่ง เร่งได้ไม่ต่อเนื่อง เร่งได้แค่ 50 เมตร 100 เมตร ก็ต้องหยุด ต้องสะดุด เพราะคนมันเยอะมาก แต่ก็ยังพยายาม พอเข้า กม.ที่ 8 คนเริ่มเบาบางลงละ มีช่องว่างให้ได้เร่งมากขึ้นแต่ผมไม่ไหวละ เร่งได้อีกจนถึง กม.ที่ 9 พยายามจะเร่งต่อแต่ไม่ไหวก็เลยเดิน
ระหว่างทางที่เดินไปก็ไปสะดุดอยู่กับคน 3 คนที่เดินจับมือกัน
(ในรูป) 2 คนเป็นผู้พิการทางสายตา คนกลางเป็นผู้จับมือทั้ง 2 เดินไป เมื่อได้เห็นทั้ง3 คนก็ทำให้ผมคิดได้ว่า ขนาดคนที่เป็นผู้พิการ เขายังกล้า ยังพยายาม ที่จะเอาชนะข้อจำกัดในตัวเอง กล้าที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อเส้นชัย เพื่อเป้าหมาย ถึงแม้ว่าระยะทางของเขาจะมืดมนแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มและหัวเราะ แบบนี้ความพิการคงไม่ปัญหาอีกต่อไป
กับคนที่มีครบ 32 สมบูรณ์ กลับไม่กล้าที่จะเริ่มทำอะไรเลย มีข้ออ้างมากมาย ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ไม่เก่ง กลัว ผมว่ามันน่าเสียดายสิ่งที่มีมากๆ น่าเสียดายที่เรามีอวัยวะครบทุกอย่าง แต่กลับไปกล้า
เหมือนอย่างที่เขาบอกว่า
"ความสำเร็จ อยู่ที่เราคิดและลงมือทำ"

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

"อย่าเสียศูนย์"

ไม่ว่าจะเล่นกีฬา หรือทำธุรกิจ
เป็นธรรมดาที่ต้องมีแพ้ มีขาดทุน
แต่สิ่งสำคัญเลยคือ "อย่าเสียศูนย์"
เพราะถ้าไม่เสียศูนย์ยังไงเดี๋ยวก็กลับมา "ชนะ"

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

COPY แม่งเลย


หากเราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ผมว่าสิ่งแรกที่ต้องถามคือ 
"มีคนทำได้หรือยัง"

ในเมื่อมีคนทำได้แสดงว่ามันต้องมีวิธีการมีขึ้นตอนที่นี้แหละ 
"COPY แม่งเลย"

เพราะคนที่ทำได้เขาคงไม่ใช่ "ซุปเปอร์แมน" ที่เอากางเกงในสีแดงไว้ข้างนอกมีผ้าผูกหลังแล้วบินได้
คนที่เขาทำได้ก็เป็นคนเดินดินคนธรรมดา ที่กินข้างแกง แพนง ฝักทอง ในเมื่อเขาทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ (ถ้าเราจะทำ)
และคนที่ทำได้ก็คงไม่ได้อาศัยโชคดีในการลงมือทำ แต่เพราะเขาสร้างโชคดีและลงมือทำมันต่างหาก "เขาเลยทำได้"

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เราจะได้ในสิ่งที่เราคู่ควร


ถ้าเราอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดจากใคร เราก็ควรแลกด้วยสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเองเช่นกัน

อยากได้ A ก็ควรแลกด้วยผลงานที่ควรได้ A 
อยากประสบสำเร็จ ก็ควรแลกด้วย ความรับผิดชอบ และวินัยที่คู่ควรกับความสำเร็จ 
อยากมีความรักดีๆ ก็ควรแลกด้วยหัวใจที่ควรได้ความรักดีๆนั้น

เพราะ เราจะไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากได้ แต่เราจะได้ในสิ่งที่เราคู่ควร

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เพ้อฝันมันอันตราย


บางคนบอกว่า อย่าเพ้อฝันไปมันอันตราย แต่ผมว่าคนที่ไม่มีฝันนั่นแหละที่อันตราย
เพราะความฝันคือคำตอบว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม ถ้าคุณไม่มีความฝัน ก็คงไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ที่ห่อเหี่ยวล่องลอย ไปวันๆ
ดังนั้น หาให้พบว่าความฝันของคุณคืออะไร แล้วเปลี่ยนมันให้เป็นความจริง ด้วยการลงมือทำ

นิทานเรื่อง "ศัลยกรรมสมอง"


มีชายหนุ่มคนนึงเขาคิดว่าเขาไม่ค่อยฉลาดจึงอยากทำ "ศัลยกรรมเปลี่ยนสมอง" เขาเลยไปปรึกษาหมอ
หมอ : ราคาศัลยกรรมไม่แพงนะ เพราะราคาสมองจะต่างกันแล้วแต่เราเลือก
ชายหนุ่ม : โอเค หมอแนะนำผมได้เลย
หมอ : นี่ๆ สมองคนอเมริกา $10,000
ชายหนุ่ม : โหหมอแพงจัง
หมอ : เอ้าก็สมองคนอเมริกา อเมริกาเป็นมหาอำนาจ ถ้าไม่ถูกใจ
งั้นนี่ๆ สมองคนญี่ปุ่น $30,000
ชายหนุ่ม : โหทำไมแพงจัง
หมอ : ก็สมองคนญี่ปุ่น คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเยอะไง ถ้ายังไม่ถูกใจ
งั้นๆ นี่สมองคนไทย $100,000
ชายหนุ่ม : สมองคนไทยดียังไง ทำไมแพงสุดอะ
หมอ : อ่อ มันไม่ค่อยได้ใช่ไงเลยแพง
ตอนผมได้ฟังก็คิดว่านี่มันเล่านิทานให้ฟัง หรือมันกำลังด่ากูวะ
แต่นิทานนี้กำลังจะบอกว่า บางทีเราก็ติดนิสัยที่ชอบบอกว่า "ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันดีอยู่แล้ว" จึงไม่ค่อยคิด ไม่ค่อยเริ่มลงมือทำอะไรจนเจอ "วิกฤต" ก็เริ่มโวยวายหาโอกาสแต่พอ "วิกฤต"ผ่านไปก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม
มันจึงมีคำถามที่ว่า
จะรอให้เจอ "วิกฤติ" แล้วค่อยเปลี่ยนแปลง
หรือ
จะเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ที่เราเจอ "วิสัยทัศน์"

Goos Luck


การสร้าง "โชคดี" คือการสร้างความเหมาะสมให้พร้อมกับ "โอกาส" ที่มีอยู่แล้วสำหรับทุกคน
และไม่ปล่อยให้ "โอกาส" เป็นเหมือนเมล็ดของต้นไม้ที่ตกลงบนดินที่แห้งแล้งที่ยังไงก็ไม่มีวันโตไดั