วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เพ้อฝันมันอันตราย


บางคนบอกว่า อย่าเพ้อฝันไปมันอันตราย แต่ผมว่าคนที่ไม่มีฝันนั่นแหละที่อันตราย
เพราะความฝันคือคำตอบว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม ถ้าคุณไม่มีความฝัน ก็คงไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ที่ห่อเหี่ยวล่องลอย ไปวันๆ
ดังนั้น หาให้พบว่าความฝันของคุณคืออะไร แล้วเปลี่ยนมันให้เป็นความจริง ด้วยการลงมือทำ

นิทานเรื่อง "ศัลยกรรมสมอง"


มีชายหนุ่มคนนึงเขาคิดว่าเขาไม่ค่อยฉลาดจึงอยากทำ "ศัลยกรรมเปลี่ยนสมอง" เขาเลยไปปรึกษาหมอ
หมอ : ราคาศัลยกรรมไม่แพงนะ เพราะราคาสมองจะต่างกันแล้วแต่เราเลือก
ชายหนุ่ม : โอเค หมอแนะนำผมได้เลย
หมอ : นี่ๆ สมองคนอเมริกา $10,000
ชายหนุ่ม : โหหมอแพงจัง
หมอ : เอ้าก็สมองคนอเมริกา อเมริกาเป็นมหาอำนาจ ถ้าไม่ถูกใจ
งั้นนี่ๆ สมองคนญี่ปุ่น $30,000
ชายหนุ่ม : โหทำไมแพงจัง
หมอ : ก็สมองคนญี่ปุ่น คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเยอะไง ถ้ายังไม่ถูกใจ
งั้นๆ นี่สมองคนไทย $100,000
ชายหนุ่ม : สมองคนไทยดียังไง ทำไมแพงสุดอะ
หมอ : อ่อ มันไม่ค่อยได้ใช่ไงเลยแพง
ตอนผมได้ฟังก็คิดว่านี่มันเล่านิทานให้ฟัง หรือมันกำลังด่ากูวะ
แต่นิทานนี้กำลังจะบอกว่า บางทีเราก็ติดนิสัยที่ชอบบอกว่า "ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันดีอยู่แล้ว" จึงไม่ค่อยคิด ไม่ค่อยเริ่มลงมือทำอะไรจนเจอ "วิกฤต" ก็เริ่มโวยวายหาโอกาสแต่พอ "วิกฤต"ผ่านไปก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม
มันจึงมีคำถามที่ว่า
จะรอให้เจอ "วิกฤติ" แล้วค่อยเปลี่ยนแปลง
หรือ
จะเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ที่เราเจอ "วิสัยทัศน์"

Goos Luck


การสร้าง "โชคดี" คือการสร้างความเหมาะสมให้พร้อมกับ "โอกาส" ที่มีอยู่แล้วสำหรับทุกคน
และไม่ปล่อยให้ "โอกาส" เป็นเหมือนเมล็ดของต้นไม้ที่ตกลงบนดินที่แห้งแล้งที่ยังไงก็ไม่มีวันโตไดั

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559


นิทานเรื่องนกมันจะรู้หรือป่าวว่าผมเป็นคน?

มีเด็กหนุ่มคนนึงเขาเชื่อว่าเขาเป็นข้าวโพด ไม่ใช่คน เขาบอกกับทุกๆคนว่า "กูคือข้าวโพด" จนญาติพี่น้องเห็นท่าไม่ดีเลยพาไปหาหมอโรคจิตเพราะคิดว่าหนุ่มคนนี้เป็นโรคจิตแน่ๆ ไปถึงหมอก็รักษาโดยการเคลียร์แนวคิดว่า "คุณคือคน ไม่ใช่ข้าวโพด" แต่เด็กหนุ่มก็ยังยืนยันว่าตัวเองคือ "ข้าวโพด ไม่ใช่คน"
ผ่านไป 2 วันก็ยังยืนยันแบบนั้น 
ผ่านไป 3 วันก็ยังยืนยันแบบนั้น
ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็ยังยืนยันแบบนั้น

จนผ่านไป 3 อาทิตย์ ชายคนนี้ก็วิ่งกลับมาหาหมอ ด้วยท่าทางมั่นใจแล้วบอกหมอว่า
"หมอๆ ผมรู้แล้วว่าผมเป็นคนไม่ใช่ข้าวโพด"
หมอก็เชคอีกรอบ "คุณเป็นอะไรนะ "
เด็กหนุ่มก็ตอบว่า "ผมเป็นคน"
หมอดีใจรีบโทรหาญาติให้มารับเด็กหนุ่มกลับบ้าน เมื่อญาติมารับหมอจึงเดินกลับไปที่ห้องแต่ยังไม่ทันไรก็มีเสียงโวยวาย

"หมอๆ ข้างนอกนกเต็มเลย" เป็นเสียงของเด็กหนุ่ม
หมอ "ทำไมมีนกแล้วเป็นอะไร"
เด็กหนุ่ม "ก็มีนกเยอะขนาดนั้นผมออกไปไม่ได้"
หมอ "ทำไมถึงออกไปไม่ได้หละ"
เด็กหนุ่ม "ก็นกมันชอบกินข้าวโพดผมจะออกไปได้ไง"
หมอ "อ้าวคุณเป็นคนนี่ ไม่ใช่ข้าวโพดจะกลัวอะไร "
เด็กหนุ่ม "ใช่ๆผมรู้แล้วว่าผมเป็นคน
แต่ผมไม่รู้ว่านกมันจะรู้หรือป่าวว่าผมเป็นคน"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ขอให้เราเชื่อว่าเราสามารถประสบความสำเร็จได้ เชื่อว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะมองเรายังไง โดยให้เชื่อจากข้อมูลที่เรามี เชื่อจากสิ่งที่เราทำ
"แล้วเราจะเป็นในสิ่งที่เราเชื่อ"

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

ชีวิตคุณมีข้อจำกัดที่ทำให้คุณไม่ก้าวหน้าไหมครับ?

ผมเองเป็นคนนึงที่ตอบว่า "มี"
และเชื่อว่าหลายๆคนก็มีเช่นกัน

แล้วใครหละช่วยให้ข้อจำกัดนี้ ที่เรามีหมดไป 
4 นาทีในวีดีโอนี้คุณจะได้พบใครคนนั้นครับ

แล้วไปกำจัด ข้อจำกัดกัน

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

อย่าเอาอย่างช้าง

ตอนที่ช้างตัวเล็กๆ เป็นน้องช้างอยู่ ควาญช้างจะเอาโซ่ล่ามไว้กับเสา
เวลาอยากจะไปต้องกระชากโซ่ แต่กระชากแล้ว กระชากยังไงก็ไปไม่ได้ ยิ่งกระชากยิ่งเจ็บ
น้องช้างจึงเรียนรู้ว่าต่อให้กระชากโซ่แค่ไหนก็ไม่หลุด เจ็บป่าวๆ

เมื่อช้างโตขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น ควาญช้างก็ยังเอาโซ่ไปล่ามไว้กับเสาแบบเดิม ช้างก็ยังไม่กล้ากระชากโซ่ เพราะช้างได้เรียนรู้จนฝังใจแล้วว่า กระชากยังไงก็ไม่ขาด ยิ่งกระชากยิ่งเจ็บ กระชากยังไงก็ไม่หลุด ทั้งๆที่มันตัวใหญ่กว่าเสาแล้ว

แต่เคยเห็นช้างลากซุงไหม ทำไมถึงลากได้ ทั้งๆที่ซุงมันใหญ่กว่าเสาที่ช้างโดยล่ามโซ่ด้วยซ้ำ

เหมือนเราตอนเด็กๆ เวลาเราจะทำอะไรเราอาจจะถูกบอกว่า อย่าเลย ทำไมได้หรอก อยากจะว่ายน้ำ ก็โดนบอกว่าอย่าว่ายเลยเดี๋ยวจม อย่าเลยๆๆๆ

พอเราโตมาความคิดนี้มันยังฝังใจเราอยู่ เวลาเราจะทำอะไรเลยไม่กล้าลงมือทำสักที

แต่เราลืมคิดไปว่า "รู้ได้ไงว่าเราทำไม่ได้" ในเมื่อเรายังไม่ได้ลงมือทำเลย
ก็เหมือนช้างตัวใหญ่ที่ยังไม่เคยลองกระชากโซ่ที่ล่ามไว้กับเสาต้นน้อยเลยแม้แต่นิด
" พี่อาร์ท Kittitat Wasati "